ประกาศคณะทำงานวอร์รูมเพื่อบริหารสถานการณ์โควิด-19
สถาบันวิทยสิริเมธี
เรื่อง
แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ฉบับลงวันที่
27 เมษายน 2564
......................................................
เนื่องจากขณะนี้ได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ในประเทศไทย และการแพร่ระบาดยังคงต่อเนื่องและทวีความรุนแรง สถาบันฯ จึงออกมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 43 (1) (5)
และ (11) แห่งพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 คณะทำงานวอร์รูมขอยกเลิกประกาศเรื่อง
แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับลงวันที่ 18 เมษายน 2564 และขอให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ข้อ 1 แนวปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ COVID-19
1.1 ขอให้สวมหน้ากากอนามัย 100% ในพื้นที่สาธารณะทุกบริเวณในสถาบันฯ
ทั้งนี้ หากมีผู้พบเห็นผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยภายในบริเวณสถาบันฯ
ขอให้แจ้งมายังคณะทำงานวอร์รูมเพื่อดำเนินการมาตรการลงโทษที่เหมาะสมต่อไป
1.2 ขอให้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคาร
โดยหากอุณหภูมิร่างกายที่ตรวจวัดได้มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส สถาบันฯ ขอสงวนสิทธิ์ห้ามไม่ให้เข้าเข้าพื้นที่อาคาร
1.3 ขอให้ใช้หลักการระยะห่างทางสังคม (Social
Distancing) และสุขอนามัยส่วนบุคคล (Personal Hygiene) เป็นหลักสำคัญในการลดความเสี่ยงและโอกาสในการติดเชื้อ COVID-19
1.4
จัดระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ยืน เข้าคิว ไม่น้อยกว่า 2 เมตร
1.5 ลดการจับ
สัมผัสของใช้ หรือใช้สิ่งของร่วมกัน
1.6
หมั่นล้างทำความสะอาดมือบ่อย ๆ อย่างน้อย 30 วินาที ควรใช้เจลแอลกอฮอล์ 70%
เพื่อทำความสะอาดมือร่วมด้วย และไม่สัมผัสใบหน้าตนเอง
1.7 เมื่อมีอาการไข้หวัด ไอ
เจ็บคอ แน่นหน้าอก
ไม่ควรเข้าร่วมงานกิจกรรมต่าง ๆ และรีบพบแพทย์โดยทันที
1.8
ให้แขวนบัตรประจำตัวของสถาบันฯ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายในพื้นที่สถาบันฯ
ข้อ 2 การเรียนการสอน
ขอให้ปรับมาใช้รูปแบบการสอน การสอบ และการประเมินผลออนไลน์ เช่น
การมอบหมายงาน (Assignment)
การทำรายงาน (Report) การนำข้อสอบไปทำนอกห้องสอบ (Take-home Examination) เป็นต้น และกรณีการสอบ Qualifying Examination (QE) หรือการสอบโครงร่าง/ป้องกันวิทยานิพนธ์ ในระดับบัณฑิตศึกษา
ให้ใช้ระบบออนไลน์หรือบูรณาการร่วมกับระบบการประชุมทางไกล (VDO Conference)
ข้อ 3 การเข้า – ออกพื้นที่สถาบันฯ
3.1 ขอให้บุคลากรและนิสิตที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับเข้าพื้นที่สถาบันฯ ในช่วงวันที่ 28 เมษายน
– 9 พฤษภาคม 2564 ให้เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับมายังพื้นที่สถาบันฯ ออกไปก่อน และขอให้ดูแลสุขภาพส่วนบุคคลตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
และปฏิบัติตามแนวปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ COVID-19 ของตนเองและผู้ใกล้ชิดอย่างเคร่งครัดในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้เดินทางกลับเข้าพื้นที่สถาบันฯ โดยขอให้นำส่งบันทึกไทม์ไลน์เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตเข้าพื้นที่ต่อคณะทำงานวอร์รูมของสถาบันฯ
และเมื่ออนุญาตจึงจะสามารถเข้าพื้นที่สถาบันฯ ได้
3.2 ให้บุคลากร
และนิสิตหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกพื้นที่สถาบันฯ เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
3.2.1 มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่ง
โดยได้รับอนุมัติการเดินทางออกนอกพื้นที่จากคณะทำงานวอร์รูมและผู้บังคับบัญชารับทราบ
และแสดงหลักฐานการอนุญาต ณ บริเวณป้อมเข้า-ออกของสถาบันฯ โดยระบุวัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน
3.2.2 เพื่อไปทำกิจธุระในระยะสั้น
บริเวณพื้นที่โดยรอบสถาบัน (ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง) โดยจะต้องมีการสแกน
QR-Code ณ บริเวณป้อมเข้า-ออกของสถาบันฯ
เพื่อระบุช่วงเวลา และสถานที่ให้ชัดเจน
ข้อ 4 การปฏิบัติตนหลังจากการกักตัวเอง
บุคลากร และนิสิตซึ่งกักตนเองอยู่ภายในพื้นที่สถาบันฯ จนครบระยะเวลาที่กำหนดแล้ว
และได้รับอนุมัติให้กลับเข้ามาปฏิบัติงานตามปกติ ต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
COVID-19 หรือการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้หลักการระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และสุขอนามัยส่วนบุคคล (Personal Hygiene)
ข้อ 5 การทำกิจกรรม
งดการรวมตัว หรือทำกิจกรรมร่วมกันเกินกว่า 10 คนขึ้นไป
ข้อ 6 ด้านงานในห้องปฏิบัติการ
6.1 นิสิตและนักวิจัยสามารถเข้าทำงานวิจัยได้โดยใช้หลักการระยะห่างทางสังคม
(Social
Distancing) ในการดำเนินการวิจัย
6.2 มีมาตรการตรวจคัดกรองหรือวัดไข้ ก่อนอนุญาตให้บุคคลใด
ๆ เข้าห้องปฏิบัติการ
6.3 มีการจำกัดจำนวนผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการไม่ให้เกิน
1 คนต่อ 10 ตารางเมตร
หรือให้อยู่ในดุลยพินิจและการบริหารจัดการของอาจารย์ที่ปรึกษา
6.4 ขอให้กำหนดตารางงานการเข้าห้องปฏิบัติการอย่างชัดเจนและให้เหลื่อมเวลากัน
เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดของห้องปฏิบัติงาน
ข้อ 7
การทำงานของบุคลากร
ให้หัวหน้างานแต่ละหน่วยงานพิจารณามอบหมายให้บุคลากรสามารถทำงานจากที่บ้าน
(work
from home) และสื่อสารการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน Microsoft
Teams หรือแอปพลิเคชันการสื่อสารอื่นที่เหมาะสมเพื่อการดำเนินการของบุคลากรของสถาบันฯ
ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ในการทำงานเทียบเท่ากับการมาปฏิบัติงาน ณ
ที่ทำการของสถาบันฯ ยกเว้นหน่วยงานที่มีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติงานภายในพื้นที่ของสถาบันฯ
โดยให้บุคลากรตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคาร ใช้หลักการระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ของสถาบันฯ
โดยระยะห่างควรห่างอย่างน้อย 2 เมตร พร้อมทั้งกำหนดจุดที่นั่งและห้ามนั่งที่ชัดเจน รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ข้อ 8
การใช้พื้นที่โรงอาหาร และการจัดส่งอาหาร
8.1 ให้ปิดการใช้แคนทีนอาคาร V และอาคาร K เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศสั่งเปลี่ยนแปลง
8.2 คณาจารย์ นิสิต และบุคลากรของสถาบันฯ
สามารถสั่งอาหารจากครัวคุณนกเพื่อให้จัดส่ง ณ จุดจัดส่งของแต่ละอาคาร
8.3 ในการรับประทานอาหารขอให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารพร้อมกับผู้อื่น
และงดการพูดคุยระหว่างการรับประทานอาหาร
ข้อ 9
การใช้รถตู้ของสถาบันฯ
ยกเลิกการใช้รถตู้ของสถาบันฯ
จนกว่าจะมีประกาศสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยหากมีความจำเป็นขอให้ติดต่อมายังคณะทำงานวอร์รูมเพื่อพิจารณาและจัดรถตู้สถาบันฯ
ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
ข้อ 10
การให้บริการรถกอล์ฟไปยังสถานที่ต่างๆ
10.1 ให้ยกเลิกการใช้รถกอล์ฟรับ-ส่งนิสิตและบุคลากรของสถาบันฯที่ อาศัยอยู่ในพื้นที่สถาบันฯ และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ไปยัง Jiffy ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. วังจันทร์วัลเลย์
และตลาดป่ายุบใน ทั้งนี้ ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้รถกอล์ฟไปสถานที่ดังกล่าว ขอให้ติดต่อมายังคณะทำงานวอร์รูมเพื่อพิจารณาการให้บริการเป็นกรณีไป
10.2 ให้จัดรถกอล์ฟรับ-ส่งนิสิตและบุคลากรของสถาบันฯ
ที่อาศัยอยู่ในโรงเรียนกำเนิดวิทย์ และหอพัก the EnConyมายังสถาบันฯ ดังตารางต่อไปนี้
วัน
|
สถานที่
|
โรงเรียนกำเนิดวิทย์
หอพักเอ็นโคนี
สถาบันวิทยสิริเมธี
|
สถาบันวิทยสิริเมธี
หอพักเอ็นโคนี
โรงเรียนกำเนิดวิทย์
|
รอบ
8.00 น.
|
รอบ
19.00 น.
|
จันทร์ –
อาทิตย์
|
√
|
√
|
หมายเหตุ การดำเนินการตามข้อ 10.2 สถาบันฯ ได้จัดรถกอล์ฟหนึ่งคันต่อหนึ่งรอบเวลา
โดยให้มีผู้โดยสารภายในรถกอล์ฟได้ไม่เกิน 7
คนต่อหนึ่งคัน และให้มีการติดสติกเกอร์บริเวณจุดที่สามารถนั่งได้
ข้อ 11 การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่สถาบันฯ
คณาจารย์
นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ที่จะเข้าพื้นที่ของสถาบันฯ
เพื่อปฏิบัติงานโดยรถยนต์ส่วนตัว จะต้องติดบัตรเข้า – ออกของสถาบันฯ ที่กระจกรถ
พร้อมทั้งติดบัตรประจำตัวของสถาบันฯ
เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
โดยทุกครั้งก่อนเข้าพื้นที่ของสถาบันฯ นั้น
บุคคลดังกล่าวพร้อมทั้งบุคคลที่โดยสารมาด้วยทั้งหมด (หากมี)
ต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่ทางเข้าของสถาบันฯ ณ บริเวณป้อมเข้า –
ออกของสถาบันฯ ทั้งนี้ สถาบันฯ
กำหนดให้อุณหภูมิร่างกายที่จะตรวจวัดได้ต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส
จึงจะสามารถเข้าพื้นที่ได้ หากอุณหภูมิร่างกายที่ตรวจวัดได้มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส สถาบันฯ ขอสงวนสิทธิ์ห้ามไม่ให้เข้าพื้นที่สถาบันฯ
ข้อ 12 การเข้าพื้นที่สถาบันฯ
ของบุคคลภายนอกและการรับส่งพัสดุ
12.1 ห้ามไม่ให้ผู้รับเหมาและบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่องานซึ่งไม่เร่งด่วน
และไม่มีผลกระทบสูง เข้าพื้นที่สถาบันฯ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากทีมคณะทำงานวอร์รูม
12.2 ห้ามไม่ให้ผู้ส่งพัสดุ เข้าพื้นที่สถาบันฯ โดยให้ส่งพัสดุไว้ที่หน้าป้อมหลักเท่านั้น
เว้นแต่กรณีมีความจำเป็นที่จะต้องส่งพัสดุในพื้นที่สถาบันฯ ต้องได้รับอนุญาตจากคณะทำงานวอร์รูม นอกจากนี้ สถาบันฯ จะไม่รับชำระค่าของพัสดุบริเวณทางเข้าป้อมหลัก
12.3 สำหรับการรับพัสดุ
ให้รับได้ที่ จุดรับพัสดุหน้าหอประชุมไพรินทร์ ตั้งแต่เวลา 8.00
– 20.00 น. หมายเหตุ
สถาบันฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย หรือการสูญหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งพัสดุนั้นๆ
12.4 ให้บุคคลภายนอกตามข้อ
12.1 และ 12.2 ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ของสถาบันฯ เข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าพื้นที่สถาบันฯ สวมบัตรผู้ติดต่อ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่สถาบันฯ อย่างเคร่งครัด
ข้อ 13
การเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร
13.1 คณาจารย์
นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ สามารถเดินทางไปยังต่างประเทศหรือเขตการปกครองได้
โดยจะต้องได้รับอนุญาตหรืออนุมัติจากผู้บังคับบัญชา
กรณีนิสิตที่จะต้องไปศึกษาต่อหรือทำงานวิจัยที่ต่างประเทศ
จะต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง รวมทั้งจะต้องส่งแผนในการป้องกันตัวเอง ให้กับคณบดี
โดยมีรายละเอียดดังนี้
- แผนประกันการเดินทาง
-
แผนรองรับสถานการณ์การติดเชื้อ COVID–19 ของมหาวิทยาลัยที่จะไป
- แผนดำเนินงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ที่ปรึกษาในต่างประเทศ
ผู้ที่เดินทางไปยังต่างประเทศหรือเขตการปกครองอื่นตามข้อ 13.1 นี้ จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กำหนดโดยสถานทูตประเทศที่จะเดินทางไป และรัฐบาลไทยอย่างเคร่งครัด
13.2 คณาจารย์ นิสิต บุคลากร
และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศถึงประเทศไทยภายหลังประกาศฉบับนี้
ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ได้รับอนุญาตหรืออนุมัติให้เดินทาง หรือเดินทางด้วยภารกิจส่วนตัว
ให้ผู้นั้นมีหน้าที่ไปรับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชื้อไวรัส COVID-19 ณ
โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานในการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเทียบเท่าโรงพยาบาลทันทีเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยโดยจะต้องกักตัวอย่างน้อย
14 วันและให้ปฏิบัติตามประกาศและแนวปฏิบัติของรัฐบาล และนำผลรายงานการตรวจดังกล่าวมาแสดงต่อหัวหน้าคณะทำงานฯ
เพื่ออนุมัติล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้าพื้นที่สถาบันฯ
ข้อ 14 การเชิญบุคคลจากต่างประเทศ
บุคคลที่มาจากต่างประเทศที่จะเข้าสถาบันฯ ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่สถาบันฯ ได้ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ข้อ 15 การดำเนินการเมื่อเกิดอาการป่วยเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง
กรณีที่คณาจารย์ นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงตามประกาศของหน่วยงานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เช่น มีอาการไข้ ไอ จาม เหนื่อยหอบ หรือหายใจติดขัด
ให้ดำเนินการ ดังนี้
15.1 คณาจารย์ นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ที่เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วยดังกล่าว ต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าคณะทำงานฯ โดยทันที
15.2 กรณีแพทย์วินิจฉัยว่าคณาจารย์ นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
มีอาการป่วยแต่ยังไม่พบการติดเชื้อ COVID-19 ให้อธิการบดีสถาบันฯ
รองอธิการบดีด้านบริหาร คณบดี หรือหัวหน้าคณะทำงานฯ มีอำนาจพิจารณาดำเนินการกับคณาจารย์
นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ตามความเหมาะสม
15.3 กรณีแพทย์วินิจฉัยว่าคณาจารย์ นิสิต บุคลากร
และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ติดเชื้อ COVID-19 ให้หัวหน้าคณะทำงานฯ ดำเนินการกับคณาจารย์
นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด
ข้อ 16 สนามกีฬา และห้องออกกำลังกาย
16.1 ให้ปิดการใช้งานสนามฟุตซอล สนามวอลเลย์บอล
สนามบาสเกตบอล สนามเทนนิส ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
16.2 ให้ปิดการใช้งานเรือคายัคเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ข้อ 17 แผนตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน COVID-19
ในกรณีที่มีนิสิต
คณาจารย์ บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
มีอาการป่วยจะต้องปฏิบัติตามแผนตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน COVID-19 รวมทั้งในกรณีที่มีการปิดสถาบัน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ให้คณาจารย์
นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
ปฏิบัติตามแผนตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน COVID-19 ที่คณะทำงานกำหนดฯ
อย่างเคร่งครัด
ข้อ 18
การเยี่ยมชมของคณะผู้เยี่ยมชมภายในประเทศ
งดคณะผู้เยี่ยมชมที่จะเข้าพื้นที่สถาบันฯ
จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ข้อ 19 การไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
ให้นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ เป็นต้น
ข้อ 20 ให้นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
ถือปฏิบัติตามประกาศนี้โดยเคร่งครัด นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป
For the English version please click : Best Practices to Prevent COVID-19 27.04.21
The COVID-19 War Room Team
Vidyasirimedhi Institute of Science and Technology (Vistec)